ทุกๆ 10 ถึง 15 นาที เราจะได้ยินเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังไปทั่วทั้งบริเวณที่หน่วยงานดูแลลูกค้า SME นั่งทำงาน ซึ่งเป็นเสียงของความยินดี ที่ทุกคนพร้อมใจกันส่งมอบให้เพื่อนในทีมที่ปิดการขายได้สำเร็จ และทุกครั้งที่ปิดการขายได้ ยอดเหล่านี้ถูกแสดงขึ้นบนหน้าจอที่ติดอยู่รอบๆ ห้อง รวมถึงหน้าจอมือถือของทุกคนในห้องด้วย
วัฒนธรรมการร่วมฉลองชัยชนะเล็กๆ ระหว่างวัน เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่คุณเเม็กนัส มูลเลอร์ ก้าวเข้าสู่ครอบครัวดีแทคในฐานะผู้นำทัพ SME ในเดือนมิถุนายน 2561 นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ดีแทคมีจำนวนลูกค้ากลุ่ม SME เพิ่มขึ้นถึง 220%
“หลายคนไม่กล้าที่จะบอกคนอื่นว่าทำงานอยู่หน่วยงานขาย และคิดว่าความสำเร็จของหน่วยงานขายขึ้นอยู่กับตัวเลข และเรื่องเงินๆ ทองๆ เท่านั้น แต่ผมอยากให้ทุกคนในทีมภูมิใจในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ทุกครั้งที่เราร่วมแสดงความยินดีให้กับเพื่อนในทีมคนอื่นๆ นั่นคือสัญญาณที่บอกว่า เราขยายฐานลูกค้าให้ดีแทคได้สำเร็จและเราทำมันด้วยวิธีที่แตกต่าง ซึ่งนั่นคือความภูมิใจที่สุดของเรา” คุณแม็กนัสกล่าว
คุณแม็กนัสยังอธิบายอีกว่า การที่เราจะเข้าถึงลูกค้ากลุ่ม SME นั้น เราต้องเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาต้องการอย่างแท้จริงเสียก่อน “ผมทำงานในธุรกิจ SME มาเป็นเวลากว่า 10 ปีครับ การทำงานในแต่ละวันนั้นค่อนข้างยากลำบากมาก เพราะ SME มีทรัพยากรและกำลังคนอยู่อย่างจำกัด เราจึงต้องทำทุกอย่างให้ได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะซ่อมไวไฟ ทำบัญชีหรือแม้กระทั่งการล้างห้องน้ำ เป้าหมายของคนทำ SME มีเพียงแค่สองสิ่งเท่านั้น คือทำอย่างไรให้ธุรกิจยังคงดำเนินต่อไปได้ และทำอย่างไรให้ธุรกิจของพวกเขาเติบโต ดังนั้น หากเราต้องการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าเหล่านี้ เราต้องเสนอสิ่งที่คุ้มค่าแต่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาด้วยครับ”
และเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทีมดีแทค SME ตัดสินใจลดจำนวนแพ็คเกจจาก 2,300 รายการให้เหลือเพียงแค่ 8 รายการเท่านั้น และยกเลิกการจำกัดเวลาการโทรออก รวมถึงเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนแปลงแพ็คเกจให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอีกด้วย และไม่เพียงแต่ลูกค้าใหม่ที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้ ลูกค้าเก่าก็สามารถรับสิทธิ์นี้ได้ด้วยเช่นกัน
“ไม่ว่าธุรกิจคุณจะอยู่ในช่วงขาขึ้นหรือขาลง คุณก็สามารถปรับเปลี่ยนแพ็คเกจได้ตามความเหมาะสม” และนี่คือคำมั่นสัญญาที่เราให้ไว้กับลูกค้า SME ซึ่งทำให้พวกเขาเปิดใจและเปิดรับเราในท้ายที่สุด” คุณแม็กนัสกล่าว
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้น หน่วยงาน SME ยังคงไม่หยุดที่จะคิดค้นบริการใหม่ๆ เพื่อช่วยเหลือลูกค้า SME เช่น การร่วมเป็นพันธมิตรทางการค้ากับธนาคารกรุงศรีเพื่อให้ลูกค้า SME ของดีแทคสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น หรือการมีผู้เชี่ยวชาญกลุ่มลูกค้า SME ประจำแต่ละศูนย์บริการดีแทค เพื่อช่วยเหลือลูกค้า SME ที่เข้ามาติดต่ออีกด้วย
“ในประเทศไทย มีธุรกิจ SME อยู่ทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านราย ซึ่งคิดเป็น 45% ของ GDP ของประเทศ” คุณแม็กนัสกล่าว “ผู้ให้บริการรายอื่นอาจมุ่งเน้นไปที่ลูกค้ารายใหญ่ เช่น ธนาคาร เป็นต้น เพราะการที่พวกเขาสามารถปิดการขายกับลูกค้าเหล่านี้ได้ หมายความว่าพวกเขาจะกลายข่าวใหญ่ในวันต่อไป แต่สำหรับดีแทค เรากำลังพูดถึง SME จำนวน 3 ล้านรายในประเทศไทย ซึ่งมีพนักงานเฉลี่ย 3 คนต่อราย ซึ่งนั่นหมายถึงลูกค้าจำนวน 9 ล้านรายที่เราต้องการดูแลครับ”