ช่วยลดความเสี่ยงจากสภาพอากาศที่รุนแรง นำไปสู่จุดวิกฤตโครงสร้างพื้นฐาน เพิ่มความแข็งแกร่งของธุรกิจยุคดิจิทัล
“หลายคนอาจเคยเจอประสบการณ์ไฟดับไฟตก จนทำให้เรารู้สึกร้อน ไม่สบายตัว หรือหลายคนก็ติดอยู่ในลิฟต์ แต่ถ้าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับภาคอุตสาหกรรม จะเกิดความเสียหายขนาดไหน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ความมั่นคงของระบบการสั่งจ่ายไฟฟ้ามีความสำคัญในทุกกิจกรรมของชีวิต ซึ่งต้องประกอบไปด้วยประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และเสถียรภาพ” ไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ส่งจ่ายไฟฟ้า และวางระบบอุปกรณ์ไฟฟ้า สัญชาติไทยผู้อยู่เบื้องหลังเมกะโปรเจ็คทั้งหลายอย่างไอคอนสยาม สนามบินสุวรรณภูมิและ 5 โครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นใน EEC ฉายภาพหนึ่งในซัพพลายเชนของพลังงานไฟฟ้า
พลังงานไฟฟ้า: คีย์สำคัญของการเปลี่ยนผ่านธุรกิจดิจิทัล
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ถึงเกือบ 1 ใน 3 ของจีดีพี ขณะที่ 1 ใน 4 ของการจ้างงานเกิดขึ้นที่ภาคอุตสาหกรรม และกว่า 80% ของมูลค่าการส่งออกเกิดขึ้นจากภาคอุตสาหกรรม จนเรียกได้ว่าเป็น “ฐานการผลิตสำคัญแห่งหนึ่งของโลก” สถานะดังกล่าวของไทยจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากระบบบริหารจัดการไฟฟ้าของโรงงานผลิตต่างๆ ไม่มีเสถียรภาพ ซึ่ง “อาซีฟา” เป็นหนึ่งในเบื้องหลังสำคัญของระบบบริหารจัดการไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพ ที่มีบริการครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า ระบบควบคุมอัตโนมัติ ระบบบริหารจัดการพลังงาน ตลอดจนบริการหลังการขายและบริการวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในอาคารขนาดกลางและขนาดใหญ่ รวมถึงโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก จะมีอุปกรณ์สำคัญที่เรียกว่า “ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าหลัก” หรือ MDB (Main Distribution Board) ซี่งมีหลักการทำงานโดยจะรับกระแสไฟฟ้าจากหม้อแปลงแล้วจ่ายไฟยังตู้ไฟฟ้าย่อยภายในอาคาร และ โรงงานอุตสาหกรรม ต่างๆ ทำให้ตู้ MDB นี้เปรียบเสมือนกับ “หัวใจ” ของระบบไฟฟ้า โดยทำหน้าที่ส่งจ่ายกระแสไฟฟ้าไปตามส่วนต่างๆ ของ อาคาร และ โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งพิจารณาจากกำลังการใช้กระแสไฟฟ้าในแต่ละส่วน
ราจีฟ บาวา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจองค์กรและธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า “ระบบพลังงาน เป็นระบบหลังบ้านที่มีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจให้ราบรื่นในยุคดิจิทัล ความมั่นคงทางพลังงาน ไม่ได้จำกัดอยู่ในบริบทของดีมานด์และซัพพลายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการ “การกระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญในซัพพลายเชนของธุรกิจ dtac business มีโซลูชั่น IoT เพื่อการจัดการงานระดับองค์กรอีกมากมาย เพื่อข่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการงานทุกส่วนได้อย่างชาญฉลาด และประหยัดต้นทุน”
ดีแทค บิสิเนส ได้ร่วมกับพันธมิตรบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า สวิตช์บอร์ดไฟฟ้า พัฒนา ระบบ Monitoring อุปกรณ์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นด้วยโซลูชัน Smart Monitoring and Service Care For Electric Switchboard โดยความร่วมมือระหว่างอาซีฟาและดีแทค ทำให้การเข้าถึงระบบ Power Monitoring ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข้อมูลได้อย่างเรียลไทม์ มีการแสดงผลที่ดูเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการอ่านค่าความร้อนความชื้น นอกจากนี้ ยังสามารถคาดการณ์ปริมาณการใช้พลังงานได้อีกด้วย ทำให้ภาคธุรกิจสามารถติดตามปริมาณการใช้งานได้อย่างเรียลไทม์ ยังมีผลต่อการลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นในอนาคตได้อีกด้วย
เพิ่มประสิทธิภาพ-เสถียรภาพ-ความปลอดภัยด้วย Smart Monitoring for MDB
ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจสู่ยุคดาต้า “ประสิทธิภาพ เสถียรภาพและความปลอดภัย” ของระบบบริหารจัดการไฟฟ้าทวีบทบาทความสำคัญมากขึ้น เมื่อธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบริการดิจิทัลขาดพลังงานไฟฟ้าไม่ได้แม้เพียงเสี้ยววินาที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Data Center ในธุรกิจโทรคมนาคม ธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจธนาคาร ธุรกิจค้าปลีก ฯลฯ
ขณะเดียวกัน ตู้ MDB เหล่านี้ก็เผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ (Climate change) ทำให้อุณหภูมิความร้อนและความชื้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งให้ประสิทธิภาพในการทำงานของตู้ MDB ลดลงได้ ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญกับระบบ Power Monitoring ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันอาซีฟาเองก็มีบริการนี้ให้กับลูกค้า ทว่ายังมีราคาสูงมากในการลงทุนและจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะประจำการ ทำให้เกิดปัญหาในการเข้าถึงบริการ ที่ส่วนมากยังคงเป็นโรงงานอุตสาหกรรมรายใหญ่และห้างสรรพสินค้า
แต่ปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี IoT ทำให้ระบบ Monitoring อุปกรณ์ไฟฟ้าเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นด้วยโซลูชั่น Smart Monitoring and Service Care For Electric Switchboard โดยความร่วมมือระหว่างอาซีฟาและดีแทค ทำให้การเข้าถึงระบบ Monitoring ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถติดตามข้อมูลได้อย่างเรียลไทม์ มีการแสดงผลที่ดูเข้าใจง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการอ่านค่าความร้อนความชื้น นอกจากนี้ ยังสามารถคาดการณ์ปริมาณการใช้พลังงานได้อีกด้วย ทำให้ภาคธุรกิจสามารถติดตามปริมาณการใช้พลังงานได้อย่างเรียลไทม์ ส่งผลต่อการควบคุมและบริหารการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นในอนาคตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ โซลูชั่น Smart Monitoring and Service Care For Electric Switchboard นี้ ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ 1. ระบบ sensor ซึ่งทางอาซีฟาจะเป็นผู้รับผิดชอบในการประกอบและติดตั้งเข้ากับตู้ MDB ซึ่งจะตรวจจับอุณหภูมิความร้อน ความความชื้น ตรวจจับควัน และ ตรวจจับความเคลื่อนไหว หรือแม้แต่กรณีไฟกระชาก ทำให้เมื่อเกิดความผิดปกติ ช่างผู้ดูแลสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ส่วนที่ 2 คือ ระบบประเมินผล ซึ่งใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติงโดยดีแทค ในการเก็บข้อมูลและประมวลผล ทำให้สามารถคาดการณ์ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า ตลอดจนสถิติต่างๆ ที่ส่งผลต่อการทำงานของตู้ MDB และองค์ประกอบสุดท้ายคือ ระบบแสดงผลที่ง่าย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องแม้จะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญก็สามารถอ่านค่าได้ ลดข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูล ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจยุคดิจิทัล