หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรม วิถีชีวิตผู้คน รูปแบบธุรกิจและบริการ รวมไปถึงรูปแบบในการทำงาน ก็ล้วนถูกปรับเพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ของโลกที่ดำเนินไป
สัญญาณที่เด่นชัดขึ้นภายหลังการแพร่ระบาดที่เบาบางลง คือเทรนด์ของธุรกิจต่างๆ ที่เริ่มตื่นตัว มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้กับทุกภาคส่วนของธุรกิจ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย นำไปสู่การปฏิรูปองค์กรสู่ยุคดิจิทัล หรือที่เรียกกันว่า ‘Digital Transformation’
‘Seven Peaks’ บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของไทย
เมื่อทุกอุตสาหกรรมล้วนแล้วแต่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ กลายเป็นโอกาสใหญ่ของธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่นับวันก็ยิ่งเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งในนั้น คือ บริษัท เซเว่น พีคส์ ซอฟต์แวร์ จำกัด บริษัทด้านวิศวกรรมและพัฒนาซอฟต์แวร์ชั้นนำของไทย ผู้มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลที่ทันสมัยและมีคุณภาพสูง สำหรับองค์กรต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงบรรดาสตาร์ตอัปที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
Seven Peaks มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 200 คน จากกว่า 25 ประเทศ ปัจจุบันให้บริการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์, การออกแบบ UX/UI สำหรับแอปพลิเคชันสมาร์ตโฟน, การสร้างคลาวด์ แพลตฟอร์ม รวมไปถึงการพัฒนาแอปมือถือแบบ Native และยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีของลูกค้าในหลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศ
Christopher Lulitananda Regel, Head of Business Development ของ Seven Peaks ได้เล่าว่า บริษัทก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2557 มีพนักงานที่เชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยีกว่า 200 คน ที่มีหน้าที่ในการช่วยลูกค้าให้สามารถเดินหน้าทางธุรกิจได้อย่างเต็มที่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งสร้าง ‘ดิจิทัล โซลูชัน’ ที่สามารถอุดจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งทางธุรกิจของลูกค้าได้
แล้วเล่าถึงกลุ่มลูกค้าของ Seven Peaks ว่ามีลูกค้าหลายกลุ่ม ตั้งแต่ระดับเอสเอ็มอี ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ ที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรด้วยการทำ Digital Transformation ซึ่งลูกค้าเหล่านี้ต่างต้องการโซลูชันเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ราบรื่น โดยการใช้หลัก Design Thinking ประสานด้วยแนวทางการทำงานแบบ Agile เพื่อเน้นความคล่องตัวในการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของผู้ใช้อย่างทันท่วงที
คริสโตเฟอร์ยังแนะว่า การสร้างระบบที่สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงสำหรับองค์กรและส่งมอบสิ่งที่มีคุณค่าให้กับผู้ใช้ได้นั้น องค์กรต่างๆ ต้องสามารถรักษาสมดุลระหว่าง ผลตอบแทนทางธุรกิจ (Viable) ความพึงพอใจของผู้ใช้ด้วยดีไซน์ (Desirable) และความเป็นไปได้ทางเทคนิค (Feasible)
เมื่อถามถึงความท้าทายของ Seven Peaks ในฐานะผู้ให้บริการ คริสโตเฟอร์เผยว่า อยู่ที่ธุรกิจขนาดเอสเอ็มอี ซึ่งมีความท้าทายหลายอย่าง อาทิ เรื่องการขยับขยาย บางครั้งธุรกิจของลูกค้ามีโอกาสเติบโตได้ไว แต่กลับไม่มีเครื่องมือหรือโซลูชันที่สามารถช่วยให้โตขึ้นได้ Seven Peaks จึงต้องหาเครื่องมือหรือโซลูชันใหม่ๆ เพื่อเอื้อให้ลูกค้าไปถึงเป้าหมาย ซึ่งโซลูชันอย่าง Google Workspace จาก dtac business ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เข้ามามีบทบาทในการขยายธุรกิจเอสเอ็มอีในระหว่างที่ทำ Digital Transformation ได้เป็นอย่างดี
ปรับรูปแบบการทำงาน รองรับโลกดิจิทัล
การมาถึงของโควิด-19 นอกจากวิถีชีวิตของผู้คนทั้งโลกจะเปลี่ยนไปแทบจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือแล้ว ยังส่งผลต่อวิถีการทำงานอีกด้วย จากเดิมที่พนักงานต้องเข้าออฟฟิศ โควิดก็ทำให้โลกการทำงานต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เกิดรูปแบบการทำงานแบบเวิร์ก ฟรอม โฮม หรือจะเป็นการทำงานจากที่ใดก็ได้ โดยยังคงประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดไว้
เรื่องนี้นับเป็นหนึ่งในความท้าทายของ Seven Peaks ด้วยเช่นกัน เพราะนอกจากจะต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงด้านธุรกิจของลูกค้า องค์กรเองก็จำเป็นต้องปรับรูปแบบการทำงานภายใน เน้นความเป็นดิจิทัลมาก่อน ให้ตอบโจทย์ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
คริสโตเฟอร์ เล่าว่า หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่วงที่เรียกว่า ‘นิว นอร์มัล’ จะเห็นว่าวิธีการทำงานเปลี่ยนไปมากพอสมควร ดิจิทัลเข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อชีวิตของคนส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะในบริษัท หรือวิถีชีวิตผู้คน เพราะฉะนั้นจึงพยายามหาวิธีเพื่อลดช่องว่าง และก้าวผ่านเข้าสู่ยุคนิว นอร์มัล ได้อย่างสมบูรณ์
เราเป็นทั้งบริษัทที่ให้คำแนะนำและคำปรึกษาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และเป็นบริษัทที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ เพื่อให้การทำงานทุกส่วนของเราง่ายขึ้น เราเป็นหนึ่งในบริษัทที่เลือกใช้ Google Workspace โซลูชันจาก dtac business เข้ามาพัฒนาภายในองค์กร ปรับประสิทธิภาพในการทำงาน โดยใช้ฟีเจอร์ต่างๆ บน Google Workspace สำหรับการบริหารจัดการ คุยกันภายใน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนะนำช่องทางใหม่ค้นหาโซลูชันธุรกิจที่ครบวงจรกับ dtac B-LAB
Seven Peaks คุ้นเคยกับแพลตฟอร์ม dtac B-LAB เป็นอย่างดี เช่นที่คริสโตเฟอร์เล่าว่า บริษัทเป็นพันธมิตรร่วมมือกับ dtac business มาแล้ว 2-3 ปี มาจนถึงการเลือกใช้ Google Workspace กับ dtac business ซึ่ง Seven Peaks ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในทีมที่ช่วยพัฒนาต้นแบบแพลตฟอร์ม
dtac B-LAB เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวมโซลูชันและข้อมูลความรู้สำหรับการทำธุรกิจเอสเอ็มอีแบบ One Stop Shop เช่น คลาวด์โซลูชันที่ช่วยพัฒนาการทำงานภายในองค์กรอย่าง Google Workspace ที่มีหลายฟีเจอร์ช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างทีมง่ายขึ้น สามารถจัดการไฟล์งานและแชร์ข้อมูลต่างๆ รวมถึงสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญได้ ความสำคัญของแพลตฟอร์ม dtac B-LAB คือการเข้าใจและรองรับการเปลี่ยนพฤติกรรมในการค้นหาหรือซื้อโซลูชันธุรกิจแบบเดิม มาเป็นแบบออนไลน์ที่มากขึ้นในปัจจุบัน
“นิว นอร์มัล ทำให้รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป Seven Peaks เป็นบริษัทที่ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของทีมให้เป็นแบบไฮบริดมากขึ้น โดยฟีเจอร์จาก Google Workspace ที่เรานำมาใช้ ได้แก่ Google Meet ช่วยให้ทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายดาย สามารถเชื่อมต่อกับพนักงานและสมาชิกในทีมได้ง่ายขึ้น บางครั้งเรารู้ว่าบางคนไม่สะดวกเข้ามาในออฟฟิศ แต่เราจำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อที่ใกล้เคียง face-to-face มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
นอกจากนี้ ยังมี Google Drive ที่คริสโตเฟอร์บอกว่า เป็นฟีเจอร์ที่สำคัญมาก เหมือนเป็นแกนของธุรกิจ เนื่องจากธุรกิจต้องมีที่ที่สามารถเป็น ‘source of truth’ หรือ แหล่งข้อมูลจริง นำข้อมูลทางธุรกิจทั้งหมดมารวมไว้ และสามารถเข้าถึงข้อมูลร่วมกันจากที่ไหนก็ได้ ซึ่งแต่เดิมพวกไฟล์ต่างๆ มักจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ปัญหาที่ตามมาคือ ตอนทำงานร่วมกันใช้ไฟล์ถูกต้องไหม เข้าถึงข้อมูลที่ต้องการง่ายหรือไม่ ซึ่ง Google Drive สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
และยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่เข้ามาช่วยในการทำงาน อย่าง Google Slides ที่คริสโตเฟอร์เล่าว่า ใช้เป็นประจำ เพราะต้องสร้างสไลด์ที่สามารถสื่อสารไอเดีย และสื่อข้อมูลของบริษัทออกไปสู่ผู้ฟัง รวมถึง Google Docs และ Google Sheets ที่ใช้ในทุกๆ วัน
คีย์สำคัญคือมั่นใจในพาร์ตเนอร์
เมื่อถามว่าอะไรเป็นเหตุผลที่เลือกใช้โซลูชันจาก dtac business ผู้บริหาร Seven Peaks ตอบอย่างไม่ลังเลว่า ด้วยความที่เป็นพาร์ตเนอร์กับดีแทคมาหลายปี และมีโอกาสได้ทำงานกับดีแทคมาหลายโปรเจกต์ เห็นถึงความมุ่งมั่นและความจริงจังของดีแทค ในการส่งเสริมผู้ประกอบธุรกิจให้เติบโตไปได้ไกลด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล จึงตัดสินใจเลือก dtac business
“จากประสบการณ์ที่ร่วมงานกันมา มั่นใจได้ว่าดี เราสามารถไว้ใจใน dtac business ได้ เพื่อให้ได้โซลูชันที่ถูกต้องและตอบโจทย์ธุรกิจที่สุด และหลังนำโซลูชันจาก dtac business เข้ามาช่วยทำธุรกิจ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพนักงานมีความสุขเพิ่มขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานก็มากขึ้น เมื่อทุกอย่างลงตัว ก็ช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าได้ไว”
คริสโตเฟอร์ทิ้งท้ายถึงแนวทางและคำแนะนำเพื่อการทำธุรกิจว่า หากสามารถนำโซลูชันอย่าง Google Workspace มาใช้ได้ตั้งแต่ระยะแรกๆ จะมีประโยชน์อย่างแน่นอน เพราะจากวันแรก ข้อมูล ไฟล์ สินทรัพย์ ทุกอย่างจะถูกรวมศูนย์ในที่เดียว สามารถช่วยเรื่องโครงสร้างองค์กรได้มากขึ้น หากจะคิดค้นโซลูชันหลังจากตั้งธุรกิจไปแล้ว อาจนำไปสู่ปัญหาอย่างเรื่องการย้ายพื้นที่ได้
สำหรับ Seven Peaks ตอนที่ได้เลือกโซลูชันกับทาง dtac business ทุกอย่างเป็นไปด้วยความง่ายดาย มีทีมซัพพอร์ตที่สามารถให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาได้ทันที เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นสำหรับองค์กรของเรา
ก้าวต่อไปในอนาคต
สำหรับก้าวต่อไป คริสโตเฟอร์กล่าวว่า Seven Peaks มีวิสัยทัศน์ค่อนข้างใหญ่ โดยวัดความสำเร็จด้วยความสามารถในการสร้าง business impact ของธุรกิจ โปรเจกต์ของลูกค้า และพาร์ตเนอร์ ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้าและพาร์ตเนอร์ได้หรือไม่ สำหรับวิสัยทัศน์ตอนนี้ แม้ธุรกิจส่วนใหญ่จะอยู่ที่เมืองไทย แต่ยังทำงานที่ยุโรป และพยายามเป็นผู้นำระดับภูมิภาคด้านที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์ดิจิทัล
นอกจาก Google Workspace แล้ว dtac B-LAB ภายใต้ความร่วมมือของ Telenor Group, Google Cloud และ dtac business ยังมองหาโซลูชันอื่นๆ จากพันธมิตรระดับโลก รวมถึงเดินหน้าโปรเจกต์ต่อไปของ dtac B-LAB ด้วยการมองหาข้อเสนอจากผู้พัฒนาซอฟต์แวร์คนไทย เพื่อตอบโจทย์สำหรับการทำธุรกิจเอสเอ็มอี สร้างเครื่องมือสู่โอกาสให้นักธุรกิจไทย รวมถึงบุคคลทั่วไปที่สนใจอยากเริ่มทำธุรกิจ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการจาก dtac B-LAB ที่เว็บไซต์ https://b-lab.dtac.co.th/