ปี 2018 นี้ นับเป็นปีที่มีความสำคัญต่อดีแทคเป็นอย่างยิ่งยวด เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น พฤติกรรมคนไทยเปลี่ยนรวดเร็วมากขึ้น จากที่ใช้ระยะเวลา 2-3 ปี แต่ตอนนี้ค่อยๆ เปลี่ยนทุกๆ วัน
ซึ่งปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สร้างทั้งการเติบโต โอกาส รวมไปถึงการทำลายล้าง (disruption) อย่างมีนัยสำคัญ หลายๆ ธุรกิจจะถูกแทนที่ด้วยโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
การ disruption เหล่านี้จะไม่ได้เกิดขึ้นในรูปแบบเดิมๆ ที่ใช้เวลาหลายปีกว่าจะเห็นผลกระทบ แต่การ disruption จะค่อยๆ เกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อสังคม อุตสาหกรรมและระดับบุคคลอย่างมีนัยสำคัญ
หรือพูดง่ายๆ ว่า “การเปลี่ยนแปลงนั้นกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน”
ถามว่าเราจะรอให้ถูกคลื่นซัดเราออกไปจากธุรกิจหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ “ดีแทค” เลือกที่จะเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
ในปีที่ผ่านมา เราคิดค้นนวัตกรรม เราทำทุกวิธีทางเพื่อตอบสนองลไฟ์สไตล์ดิจิทัลของคนไทย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ machine learning ในการทำการตลาด แนวคิด Flip it ที่เข้ามาปฏิวัติการตลาดในอุตสาหกรรมโทรคม หรือแอพ dtac call ที่ทำให้ไม่ต้องถือสมาร์ทโฟนหลายๆ เครื่อง
ปี 2018 นี้ เรายังคงเดินหน้าเพื่อเป้าหมายการเป็น “ผู้นำด้านดิจิทัลในประเทศไทย” รวมไปถึงการจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด (Lean operation)
การลดต้นทุนทำให้เราสามารถลงทุนกับสิ่งที่กำลังเติบโตได้ สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ทำให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้เราสามารถโฟกัสกับการสร้างคุณค่าให้แก่ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เราเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีทางการเงินจากการ transformation ในปี 2017 ที่ผ่านมา เราสามารถพูดได้ว่าเรากลับสู่ภาวการณ์เติบโต กำไรที่ปรับตัวสูงขึ้น เราสามารถรักษากระแสเงินสดได้ในระดับสูงจากนโยบายการควบคุมต้นทุน
วิสัยทัศน์ Empowering societies เสริมสร้างศักยภาพสังคมด้วยอินเทอร์เน็ต ถือเป็นแก่นสำคัญในการดำเนินธุรกิจของดีแทค และนั่นทำให้เราก้าวสู่ภาวะ “หัวเลี้ยวหัวต่อ” ในไม่กี่เดือนข้างหน้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สัญญาสัมปทานระหว่างดีแทคและ กสท. จะหมดลงในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และนั่นทำให้เราพยายามในการหาคลื่นความถี่เพิ่มเติม เพื่อทำให้การใช้งานมีคุณภาพมากขึ้น
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้มีมติเห็นชอบต่อแผนการใช้งานคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ของทีโอทีและดีแทค โดยระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบของอัยการสูงสุดและคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งนี่ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของไทยให้ดีขึ้น
สำหรับการประมูลคลื่น 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ เรามองว่าการประมูลควรทำให้เกิดการจัดสรรคลื่นความถี่ที่มีประสิทธิภาพและเพียงพอ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณการใช้งานของผู้บริโภคที่นับวันมีความต้องการมากขึ้น
ราคาที่เหมาะสมและปริมาณที่เพียงพอในการจัดสรรคลื่นความถี่เป็นสิ่งที่สำคัญต่อการเคลื่อนฐานเศรษฐกิจของประเทศสู่ดิจิทัล ตลอดจนนโยบายไทยแลนด์ 4.0
ดีแทค มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการบริการเพื่อให้คนไทยเข้าถึงและใช้อินเทอร์เน็ตอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโครงการ Safe Internet เพื่อให้เกิดการใช้อินเทอร์เน็ตที่ถูกต้อง โครงการ dtac Smart Farmer ที่หวังใช้อินเทอร์เน็ตยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย รวมไปถึงประเด็นความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล
สำหรับปี 2018 นี้ เรามี 5 พันธกิจสำคัญสำหรับดีแทค
- รายได้จากช่องทางดิจิทัลจะเติบโตอย่างเร็วยิ่งขึ้น
- พัฒนาสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้ามากที่สุด
- พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลแก่พนักงานเพื่อพัฒนาสู่คนดิจิทัลคุณภาพ
- เสริมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้นด้วยโครงข่ายที่มีประสิทธิภาพและคลื่นความถี่แบนด์ใหม่
- เพิ่มรายได้และกำไรจากการควบคุมต้นทุน
เรียกได้ว่า ปี 2018 นี้ เป็นปีที่พิเศษและมีความยากและท้าทายอยู่เบื้องหน้า แต่เรามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าดีแทคจะแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา