ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้เป็นเรื่องปรกติที่เราจะรู้สึกเครียดมากเป็นพิเศษ ซึ่งหนึ่งในวิธีลดความเครียดที่ง่ายและได้ผลที่สุดที่ผมอยากแนะนำก็คือ การกินขนมครับ การได้กินอะไรหวานๆเย็นๆ นี่ทำให้อารมณ์ดีขึ้นได้แบบไม่น่าเชื่อ เหมือนความเครียดมันละลายไปพร้อมกับขนมเลยทีเดียว ซึ่งในกรุงเทพฯ มีร้านขนมอร่อยๆ อยู่มากมายเต็มไปหมด
วันนี้ผมเลือกมาแนะนำทั้งหมด 5 ร้านจาก 5 ย่านดังในกรุงเทพฯ สามารถสั่งมากินที่บ้านได้แถมรับประกันได้ว่า คุ้มค่าอ้วนทุกแคลอรี่ กินแล้วอ้วนอย่างมีคุณภาพแน่นอน
ขนมครกเข้าวัง ราชวัตร
ราชวัตรเป็นอีกหนึ่งย่านของกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยของอร่อยทั้งของคาวของหวาน เปิดให้บริการตลอดไม่ว่าจะเป็นมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็น หนึ่งในร้านเด็ดของย่านนี้คือ “ขนมครกเข้าวัง” ที่คิวยาวตลอดเวลา จุดเด่นของขนมครกร้านนี้คือ เป็นขนมครกแบบเดียวกับที่เรากินตอนเด็กๆ คือ ค่อยๆ หยอดทีละหลุม เปลือกของขนมครกจะไม่มีปีกเป็นแผ่นแป้งบางๆ แบบที่ต้องใช้กรรไกรตัดแบ่ง ซึ่งร้านนี้จะหยอดแป้งเกือบเต็มหลุม ทำให้มีเปลือกกรอบเป็นพิเศษ ส่วนตัวเนื้อกะทิก็หวานมันเข้มข้นมาก มีให้เลือกทั้งแบบมีและไม่มีไส้ กินเพลินแบบหมดทั้งกล่องได้ไม่รู้ตัว
ขนมเบื้องสรินทิพย์ ตลาดพลู
ย่านตลาดพลูน่าจะนับเป็นศูนย์รวมของอร่อยมากที่สุดย่านหนึ่งของฝั่งธน และของดีประจำตลาดพลู ต้องยกให้ “ขนมเบื้องสรินทิพย์” ที่ส่งต่อความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่นมามากกว่าร้อยปีแล้ว ขนมเบื้องร้านนี้จะหน้าตาไม่เหมือนขนมเบื้องทั่วไป เพราะวิธีการทำคือการละเลงแป้งชิ้นใหญ่เต็มกระทะ แล้วประโคมใส่เครื่องจำนวนมหาศาลลงไป ก่อนจะตัดแบ่งและพับเป็นชิ้น ไส้หวานจะเป็นมะพร้าวแก้วกับฝอยทอง ส่วนไส้เค็มจะเป็นมะพร้าวขูดกับกุ้งและกระเทียมพริกไทกับรากผักชี แล้วโรยต้นหอมผักชีปิดท้าย ซึ่งลองแล้วบอกได้เลยว่าอร่อยไม่แพ้กันทั้งสองไส้
ข้าวเหนียวมูน ก.พานิช
ใครอยากอร่อยแบบอิ่มท้อง ต้องเจอเมนูข้าวเหนียวมูนร้าน “ก.พานิช” ตัวแทนจากย่านเมืองเก่าแพร่งภูธร เป็นอีกร้านที่มีประวัติยาวนานมาเกือบร้อยปีกับสูตรที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น โดยข้าวเหนียวของ ก.พานิชจะเป็นข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากจังหวัดเชียงราย เมื่อนำมามูนกับกะทิแล้วจะไม่แข็งหรือแฉะจนเกินไป โดยเฉพาะช่วงนี้เข้าหน้าร้อนแล้วเป็นฤดูของมะม่วง แถมปีนี้มะม่วงล้นตลาด ซื้อข้าวเหนียวไปกินคู่กัน ราดน้ำกะทิฉ่ำๆ โรยด้วยถั่วกรอบๆ นี่แหละ ชัยชนะของฤดูร้อน!
ทับทิมกรอบแม่ดวงพร ลาดหญ้า
หน้าร้อนแบบนี้ต้องดับร้อนกันด้วยของหวานเย็นๆ จากโซนลาดหญ้า วงเวียนใหญ่ “ร้านทับทิมกรอบแม่ดวงพร” ที่ป้ายหน้าร้านจะเขียนคำว่า “ทับทิมกรอบ” ตัวใหญ่มาก ชนิดที่ไปแล้วรู้ทันทีว่าต้องกินเมนูไหน ทับทิมกรอบร้านนี้จะเม็ดเล็ก สีส้มๆ แดงๆ ทีเด็ดคือนอกจากทับทิมกรอบแล้วยังมี ซ่าหริ่ม แห้ว และมะพร้าวกะทิให้สั่งมากินคู่กันให้ครบเครื่องได้ด้วย ราดด้วยน้ำกะทิเข้มข้น โปะด้วยน้ำแข็งเกล็ดคือที่สุดของความฟิน
ถิงถิงบิงซูน้ำขิง
ปิดท้ายด้วยของหวานแนวรักสุขภาพจากย่านถนนจันทน์-สาธุประดิษฐ์ด้วยร้าน “ถิงถิงบิงซูน้ำขิง” ซึ่งประยุกต์ของหวานสไตล์จีนอย่าง บัวลอยงาดำน้ำขิง ซึ่งเดิมเป็นขนมร้อนที่มีรสชาติเผ็ด ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์กับสภาพอากาศบ้านเราซะเท่าไร ก็เลยเอามาดัดแปลงเป็นบิงซูหวานเย็นให้กินง่ายขึ้น นอกจากบัวลอยน้ำขิงแล้วยังมีอีกหลายเมนู ทั้งเต้าฮวย เฉาก๊วย หรือพวกเมนูบิงซูไข่มุกก็มี เรียกว่ามีเมนูให้อร่อยกันได้ตั้งแต่อาม่ายันหลานในร้านเดียว
Jacques Torres เชฟของหวานผู้เลื่องชื่อชาวฝรั่งเศสเคยกล่าวไว้ว่า Life is short. Eat dessert first หลายคนอาจเครียดบ้าง อาจไม่สบายใจ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่า พักการครุ่นคิดสักนิด เอ็นจอยกับของหวานอร่อยๆ แค่นี้ก็อาจทำให้เราได้ไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมาได้
ยิ่งสำหรับลูกค้าดีแทค ตอนนี้สามารถสั่งอาหารและของหวาน พร้อมรับส่วนลดสุดพิเศษโดยแลกรับสิทธิผ่าน dtac app กรอกโค้ดเมื่อใช้บริการ foodpanda และ GET FOOD แค่นี้ก็อร่อยที่บ้านได้แล้ว
Bon appétit!